วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

"มัณฑานากร" เค้าคนนี้คือใคร (ต่อ)

สภาพการทำงาน

การปฏิบัติงานการออกแบบ ส่วนมากต้องทำงานทั้งในและนอกสำนักงาน เช่นในอาคาร ในสถานที่กำลังตกแต่ง อาจต้องใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ

คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ ผู้ประกอบอาชีพนี้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

1. มีคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาตกแต่งภายใน

2. มีความคิดสร้างสรรค์ ผลิตผลงานที่ไม่เหมือนใคร เป็นคนมีความละเอียดรอบคอบ

3. มีความสามารถในการรู้จักประยุกต์ใช้วัสดุที่มีในประเทศ เพื่อแสดงเอกลักษณ์ และประโยชน์ใช้สอยสูงสุด

4. มีทักษะในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการช่วยวาดรูปหรือออกแบบ

5. มีระเบียบวินัย เข้าใจถึงการบริการทางธุรกิจ

6. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ให้ความร่วมมือกับทีมงานดี และมีความสามารถในการประสานงาน

7. มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และปรับปรุงความรู้ความสามารถอยู่ตลอดเวลา

8. รู้แหล่งข้อมูลเพื่อซื้อหาวัตถุดิบ

9. ออกแบบตกแต่งภายในอาคารบ้านเรือนให้ถูกหลักและตรงตามความต้องการของผู้ บริโภค และเพื่อความปลอดภัย ประหยัดเหมาะสมกับภาวะสังคมและเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน

ผู้ที่จะ ประกอบอาชีพนี้ ควรเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้คือ : เมื่อสำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า(สายวิทย์) สอบคัดเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่จัดสอนคณะหรือภาควิชาสถาปัตยกรรม ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัย อาจไม่เหมือนกัน

โอกาสในการมีงานทำ

สภาพ เศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้อุตสาหกรรม วงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบมากในการจัดหาเงิน มาดำเนินการลงทุนทางด้านก่อสร้าง ทำให้อาชีพนี้สะดุดไประยะหนึ่ง แต่ผู้ประกอบอาชีพนี้พยายามเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส คือ ใช้ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์เปลี่ยนไปออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ของเล่นอุปกรณ์การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ เพื่อเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ

ใน ภาครัฐบาลผู้ที่ปฏิบัติในหน้าที่นี้จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งและขั้นตามความ สามารถ ถ้าพยายามปรับพัฒนาฝีมือและสร้างสรรค์ผลงาน ตำแหน่งอาจเลื่อนถึง ผู้อำนวยการของหน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่ หรือประกอบอาชีพส่วนตัวในการออกแบบทำสินค้าพรีเมี่ยม สินค้าที่ระลึก

อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง

นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ นักออกแบบกราฟฟิค ครู – อาจารย์ ในคณะสถาปัตยกรรมของสถาบันการศึกษาต่างๆ

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

"มัณฑนากร" เค้าคนนี้คือใคร


มัณฑนากร หรือ นักออกแบบตกแต่งภายใน
เป็นผู้ผสมผสานความคิด และความรู้ทางด้านการออกแบบ การผลิต การตลาด และศิลปะเข้าด้วยกัน เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม : ออกแบบตกแต่งภายในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น พื้นที่ภายในอาคาร ที่อยู่อาศัย อาคารสาธารณะ พื้นที่ภายในยานยนต์ประเภทต่าง ๆ เช่น เครื่องบิน รถโดยสาร เรือ หรือพื้นที่แสดงสินค้า / จัดนิทรรศการอื่น ๆ รวมถึงการจัดตู้หรือกระจกแสดงสินค้าของร้านค้า ห้างสรรพสินค้าขนาดต่าง ๆ โดยสามารถจัดวางผังเขียนแบบ รวมถึงกำหนดรายละเอียดส่วนประกอบต่าง ๆ เพื่อการก่อสร้างที่สมบูรณ์ และควบคุมดูแลช่างตกแต่งภายในให้ทำหน้าที่ได้ถูกต้อง

ลักษณะของงานที่ทำ
มัณฑนากรเป็นผู้ออกแบบการตกแต่งภายในสถานที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงาน ต้องทำงานตามขั้นตอน และกำหนดเวลาชิ้นผลงานต่างๆ ร่วมกับ ผู้ว่าจ้าง

1. บันทึกรายละเอียด ความต้องการของลูกค้า เพื่อออกแบบให้สร้างสรรค์เป็นที่สะดุดตา ประทับใจ และได้รสนิยมตรงตามความต้องการของลูกค้า

2. ศึกษาโครงสร้างของงานดำเนินการออกแบบตกแต่ง คำนวณแบบ ประมาณราคา เลือกวัสดุตกแต่งที่มีคุณภาพ เหมาะสม ให้ประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า ตรงตามเป้าหมายและประโยชน์ใช้สอย

3. ส่งแบบที่วาดและเสนองบประมาณให้ลูกค้าพิจารณา


4. เมื่อผ่านการแก้ไขดัดแปลงแบบให้สมบูรณ์แล้วจึงส่งแบบให้กับ ช่างต่างๆ เช่น ช่างไม้ หรือช่างเชื่อมเหล็กให้ทำงานตามโครงสร้างที่ออกแบบไว้

5. ปฏิบัติงาน และประสานงานกับระบบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

6. ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ช่างเพื่อให้การออกแบบเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา

(มีต่อพรุ่งนี้คับ)

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พื้นไม้ลามิเนต

พื้นไม้ลามิเนต มีต้นกำเนิดจากประเทศในแถบยุโรป โดยมีประเทศเยอรมนีเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีการผลิต เป็นวัสดุปูพื้นที่มาทดแทนไม้ปาร์เก้ และไม้จริง โดยมีข้อดีกว่าด้วยคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่น 3 ข้อดังนี้
เวลาการติดตั้งที่รวดเร็วกว่า
ผิวหน้าสามารถทนทาน ต่อรอยขูดขีด แรงกดกระแทกได้ดีกว่า
สามารถเลือกสีผิวหน้าให้เป็นลวดลายที่ต้องการได้ ในขณะที่ไม้ปาร์เก้มีตาไม้จริง ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้



คุณสมบัติ
ผิวหน้ามีความทนทานต่อรอยขูดขีด
ผิวหน้าไม่ทำให้ลื่นล้ม
มีหลายสีให้เลือก ตามความชอบส่วนบุคคล
สามารถทนความร้อนได้ในระดับหนึ่ง ทนต่อสารเคมี และไม่ติดไฟ
พื้นไม่เก็บฝุ่นและเชื้อโรค ต่างจากพรม และกระเบื้อง
ทำความสะอาดได้ง่าย
เหมาะกับการใช้งานในร่ม ที่อยู่อาศัย ร้านค้า ห้องประชุม ทั้งนี้ควรเลือกรุ่นความแข็งแรงให้


ความแข็งแกร่งของพื้นไม้ลามิเนต
ความเชื่อที่ว่า พื้นไม้ลามิเนตยิ่งหนา ยิ่งแข็งแรงนั้นไม่ถูกต้องนัก โดยแท้จริงแล้วสามารถเทียบได้ดังนี้
ความหนาแน่นที่แกนกลาง แกนกลาง
HDF ที่มีความหนาแน่นสูง จะทำให้สามารถรับแรงกระแทกได้ดี และการขยายตัวจากความชื้นน้อยลง สามารถเทียบความหนาแน่นได้โดยนำตัวอย่างที่ตัดแล้ว มาสังเกตเนื้อที่แกนกลางด้วยตาเปล่า
ค่า AC = Abrasion Classification = ข้อกำหนดการสึกถลอกของผิวหน้าพื้นไม้ลามิเนต ตามมาตรฐาน
EN13329 มีค่าตั้งแต่ AC1 – AC5 โดยค่ายิ่งมากยิ่งแสดงถึงความคงทนมาก
ค่า IC = Impact Classification = ข้อกำหนดการทนแรงกระแทกลงบนผิวหน้าพื้นไม้ลามิเนต ตามมาตรฐาน
EN13329 มีค่าตั้งแต่ IC1 – IC3 โดยค่ายิ่งมากยิ่งแสดงถึงความคงทนมาก

มาตรฐานการรับรองสากลของพื้นไม้ลามิเนต
เป็นสัญลักษณ์ที่บอกถึงการรับประกันคุณภาพของตัวพื้นไม้ที่เป็นสากลทั่วโลก ส่วนใหญ่มาจากสถาบันในยุโรป
EPLF
[1] เป็นสมาคมพื้นไม้ลามิเนตแห่งสหภาพยุโรป มีหน้าที่ในการส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ และสร้างมาตรฐานสำหรับพื้นไม้ลามิเนต ผู้ที่เป็นสมาชิกสมาคมได้ต้องเป็นผู้ผลิตพื้นไม้ผู้มีคุณภาพ และมาตรฐานสูง เพราะเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการกำหนดมาตรฐานพื้นไม้ลามิเนตของโลก
NALFA
[2] เป็นสมาคมพื้นไม้ลามิเนตในทวีปอเมริกาเหนือ ก่อตั้งภายหลัง EPLF เป็นการรวมกลุ่มของผู้ผลิตในทวีปดังกล่าว
CELQ
[3] เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงผู้ผลิตพื้นไม้ลามิเนตที่มีคุณภาพสูงมาก โดยเป็นสัญลักษณ์ที่มาแทน RAL เดิม โรงงานที่ได้สิทธิ์ประดับสัญลักษณ์นี้ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากสถาบันตรวจสอบอิสระ และต้องเป็นสมาชิกของ EPLF มาก่อนเท่านั้น
E1 เป็นค่าการทดสอบการแพร่ของฟลอมาดีไฮด์ (
Formaldehyde Emission) ที่แกนกลาง สารฟลอมาดีไฮด์ (สารประกอบฟลอมารีน) เป็นสารก่อมะเร็ง มีโทษเมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณที่เกินจำกัด พื้นไม้ลามิเนต E1 บอกถึงพื้นที่ไม่มีการสะสมของฟลอมารีนในปริมาณที่เป็นอันตราย
PEFC
[4] เป็นองค์กรอิสระที่ตรวจสอบการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ ของโรงงานไม้ต่างๆ ว่ามีมาตรฐานการจัดการที่ดีทางด้านสิ่งแวดล้อม การตัดไม้ที่ไม่เกินทั้งปริมาณและขนาด และการปลูกทดแทนให้ต้นไม้ได้เติบโตให้ทันกับปริมาณที่ใช้


วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ออกกำลังกาย เวลาไหนดีที่สู๊ดดดดดดดด ..



วันนี้เรามีคำตอบมาแนะนำ ....


การออกกำลังเพื่อลดน้ำหนัก
ถ้าออกกำลังเพื่อพิฆาตความอ้วน เวลาเช้าๆ นี่ล่ะเหมาะที่สุด เพราะเป็นเวลาที่ร่างกายจะนำคาร์โบไฮเดรต จากอาหารมื้อเย็นของเมื่อวานมาใช้เป็นพลังงาน จึงสลายไขมันและเผาผลาญแคลอรีได้ดีกว่าการออกกำลังกายในตอนเย็นเยอะ
การออกกำลังเพื่อฟิตกล้ามเนื้อ
สงสัยหนุ่มๆ คงชอบทำข้อนี้มากกว่าสาวๆ เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการฟิตกล้ามคือเวลาในช่วงบ่ายเพราะมี ผลการวิจัยบอกว่า กล้ามเนื้อของเราจะพร้อมและใช้งานได้ดีที่สุดตั้งแต่เวลาเที่ยงเป็นต้นไป ส่วนช่วงเช้า กล้ามเนื้อจะยังตื่นตัวไม่เต็มที่นัก
การออกกำลังเพื่อผ่อนคลาย
ถ้าอยากออกแรงเพื่อสลายความเครียด ขอแนะนำให้ไปอัพแอนด์ดาวน์เอาตอนบ่ายๆ หรือจะเย็นไปเลยก็ได้ เพราะการออกกำลังกายช่วงนี้จะทำให้หลับสบายในตอน กลางคืน แต่ถ้าไปออกแรงหนักๆ อย่างนี้ในตอนเช้า เดี๋ยวไปง่วงนอนตอนบ่ายแล้วเจ้านายค้อนเอาไม่รู้ด้วย
การออกกำลังเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์
ก็เป็นเวลาเช้าอยู่แล้ว เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศแจ่มใสที่สุดของวัน การออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้สมองและร่างกายทุกส่วนรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ข้อดีของ คอลลาเจน


คอลลาเจน คือ โปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังของร่างกายซึ่งสานกันเป็นเครือข่ายชั้นผิวหนัง และเป็นโปรตีนสำคัญต่อความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด และช่วยสร้างความตึงกระชับให้ผิว โดยจะทำงานร่วมกับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า อีลาสติน
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจน คือ อนุมูลอิสระที่เกิดจากมลพิษต่างๆเช่น บุหรี่ แสงแดด สารปนเปื้อนในอาหาร และจากการเผาผลาญอาหารในร่างกายไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย และเมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไปการผลิตคอลลาเจนในร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อขาดคอลลาเจนผิวพรรณที่เคยเต่งตึงจะเริ่มหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น ความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิวลดลง
การเติมคอลลาเจนให้กับผิวเพื่อหวังผลในการชะลอริ้วรอย ในวงการแพทย์สามารถทำได้โดยการฉีดคอลลาเจนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนในเครื่องสำอางก็มีการนำคอลลาเจนไปผสม สังเกตได้จากฉลากที่ระบุส่วนผสมของ ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ อีลาสติน โปรคอลลาเจน เอเอชเอ
นอกจากนั้นการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งจะช่วยชะลอการสลายตัวของคอลลาเจนและช่วยลดการเกิดมะเร็งในร่างกายอีกด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็ได้แก่ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี ซึ่งเป็นสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดอนุมูลอิสระมีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสติน